- HOME
- Policy
นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล บริษัท ฮอนด้า โลจิสติกส์ เอเซีย จำกัด
บริษัท ฮอนด้า โลจิสติกส์ เอเซีย จำกัด (บริษัท) ให้ความสำคัญต่อการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตามกฎหมาย และเคารพสิทธิความเป็นส่วนตัวของลูกค้า ผู้ถือหุ้น พนักงานของบริษัท รวมทั้งบุคคล หรือนิติบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้องกับบริษัท และเพื่อให้เกิดความมั่นใจและเชื่อมั่นว่าบุคคลดังกล่าวจะได้รับความคุ้มครองสิทธิตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลอย่างครบถ้วน บริษัท จึงจัดทำนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล โดยมีหลักเกณฑ์มาตรการกำกับดูแล และการบริหารจัดการข้อมูลส่วนบุคคลตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 ดังรายละเอียดต่อไปนี้
ข้อ 1. ขอบเขตการบังคับใช้
“ข้อมูลส่วนบุคคล” ในที่นี้ หมายถึง ข้อมูลที่สามารถระบุตัวบุคคลได้ทั้งทางตรงหรือโดยอ้อม เฉพาะบุคคลที่มีชีวิตอยู่เท่านั้น
นโยบายฉบับนี้มีขอบเขตการบังคับใช้ครอบคลุมถึงการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลทั้งหมดที่ดำเนินการโดยบริษัทที่มีต่อข้อมูลส่วนบุคคลของ
(1) ลูกค้าที่เป็นบุคคลธรรมดา ซึ่งอาจเป็นลูกค้าปัจจุบัน ลูกค้าในอดีต หรือ ลูกค้าในอนาคต รวมถึงผู้แทนนิติบุคคลของลูกค้าที่เป็นนิติบุคคล
(2) ลูกจ้างของบริษัท รวมทั้งบุคลากรอื่นที่ปฏิบัติงานกับบริษัทในปัจจุบัน หรือเคยร่วมงาน หรือประสงค์ที่จะร่วมงานกับบริษัทในอนาคต
ไม่ว่าจะเป็นการปฏิบัติงานภายใต้สัญญาจ้างประจำ หรือสัญญาจ้างชั่วคราว รวมทั้งผู้รับจ้างทำงานภายใต้สัญญาว่าจ้างทุกประเภท
(3) ผู้ถือหุ้นของบริษัท ซึ่งเป็นบุคคลธรรมดา รวมถึงตัวแทนทางกฎหมายของผู้ถือหุ้นที่เป็นนิติบุคคลนั้น
(4) กรรมการผู้จัดการ ผู้มีอำนาจกระทำการแทนนิติบุคคล ตัวแทนผู้รับมอบอำนาจของบริษัท
(5) ลูกค้า คู่ค้า คู่สัญญา พันธมิตรทางธุรกิจ ผู้จำหน่าย ซึ่งมีสถานะเป็นบุคคลธรรมดา หรือ เป็นตัวแทนนิติบุคคลของคู่สัญญาเช่นว่านั้น
(6) ผู้ให้บริการ ผู้รับจ้าง ผู้ให้เช่า ผู้เช่า ผู้อนุญาต ผู้ได้รับอนุญาต ซึ่งมีสถานะเป็นบุคคลธรรมดา หรือ เป็นผู้แทนนิติบุคคลของคู่สัญญาเช่นว่านั้น
(7) ลูกจ้างประเภทต่าง ๆ ซึ่งอาจถูกจัดจ้างจากบุคคลภายนอก (Outsource) ผู้ที่อยู่ในระหว่างการทดลองงาน รวมถึงนักศึกษาฝึกงาน
(8) ผู้ที่เข้าร่วมกิจกรรมที่จัดขึ้นโดยบริษัท หรือ กิจกรรมที่ทางบริษัทร่วมกับหน่วยงานอื่น ซึ่งอาจส่งผลให้ต้องมีการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเกิดขึ้น
(9) บุคคลที่ได้เปิดเผยหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของตนให้แก่ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลหรือผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
และ บุคคลเหล่านั้นได้เปิดเผยหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวมายังบริษัท
(10) บุคคลอื่นใดที่เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลร่วมกับบุคคลตามข้อ (1) – (9) และข้อมูลส่วนบุคคลนั้นถูกประมวลผลโดยบริษัท
นอกจากนี้ นโยบายฉบับนี้ยังใช้กับการประมวลผลที่เกิดขึ้นบนหน้าเว็บไซต์ หรือช่องทางสื่อสารทางออนไลน์อย่างเป็นทางการ
บริการลูกค้าสัมพันธ์ และวิธีการอื่นใดที่บริษัทได้ทำการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
กรณีที่ข้อมูลส่วนบุคคลที่เราได้เก็บรวบรวมไว้ก่อนที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลจะมีผลบังคับใช้ บริษัทมีสิทธิในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลนั้นตามวัตถุประสงค์เดิมต่อไปได้
โดยไม่ต้องขอความยินยอมจากท่านแต่อย่างใด อย่างไรก็ดี เมื่อกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลมีผลบังคับใช้ และท่านไม่ต้องการให้เราเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ดังกล่าวนี้
ท่านอาจติดต่อเราเพื่อหยุดการเก็บรวบรวมหรือใช้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นได้ตามช่องทางการติดต่อที่ระบุไว้ในข้อ 10. ช่องทางการติดต่อบริษัท
ข้อ 2. การเก็บข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลโดยมีวัตถุประสงค์ ขอบเขตและใช้วิธีการที่ชอบด้วยกฎหมายและเป็นธรรม
โดยในการเก็บนั้นจะทำเพียงเท่าที่จำเป็นแก่การดำเนินงานภายใต้วัตถุประสงค์ของบริษัท ฮอนด้า โลจิสติกส์ เอเซีย จำกัด เท่านั้น ทั้งนี้บริษัทจะดำเนินการให้เจ้าของข้อมูลรับรู้ให้ความยินยอมทางอิเล็กทรอนิกส์
หรือตามแบบวิธีการของบริษัท
กรณีที่บริษัทจัดเก็บข้อมูลส่วนอ่อนไหวของเจ้าของข้อมูล บริษัทจะขอความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลโดยได้แจ้งก่อนทำการเก็บรวบรวม
เว้นแต่การเก็บข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหวจะเข้าข้อยกเว้นตามที่ พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 หรือกฎหมายอื่นที่กำหนดไว้
บริษัทอาจสอบถามข้อมูลส่วนบุคคลอื่นเพิ่มเติมจากท่าน เช่น เมื่อท่านเข้าร่วมกิจกรรม หรือบริการที่บริษัทหรือพันธมิตรทางธุรกิจจัดขึ้น โดยท่านอาจต้องระบุข้อมูลเพิ่มเติม
การแจ้งข้อมูลส่วนบุคคลเพิ่มเติมจะทำให้ท่านสามารถใช้บริการต่างๆ ได้มากขึ้น
ข้อ 3. วัตถุประสงค์ในการจัดเก็บ รวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทจะทำการจัดเก็บ รวบรวม และใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อให้ท่านได้รับสินค้าและบริการที่ดีจากบริษัทอย่างมีประสิทธิภาพ โดยท่านตกลงและยินยอมให้บริษัทสามารถใช้ เปิดเผย
ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในการติดต่อหรือส่งข้อมูลส่วนบุคคลของท่านทั้งหมดหรือบางส่วนไปยังบริษัท ในเครือของบริษัทหรือพันธมิตรในทางธุรกิจ หรือบุคคลอื่น โดยไม่จำเป็นต้องบอกกล่าวล่วงหน้าแก่ท่าน
เพื่อประโยชน์ของท่านและของกิจการบางส่วน ดังต่อไปนี้
(1) เพื่อสนับสนุนการส่งมอบบริการ ผลิตภัณฑ์ สิทธิพิเศษ กิจกรรมด้านการตลาดที่ตรงกับความต้องการของท่านผ่านช่องทางส่วนบุคคลที่ท่านยินยอมให้บริษัทจัดเก็บ ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
(2) เพื่อวิจัยและวิเคราะห์ประสบการณ์การใช้บริการ ทำธุรกรรม หรือการร่วมกิจกรรมใดๆ กับบริษัท ฮอนด้า โลจิสติกส์ เอเซีย จำกัด ทำให้ท่านสามารถใช้บริการได้อย่างต่อเนื่อง
(3) เพื่อดำเนินการตามการใช้บริการ ทำนิติกรรมสัญญา ธุรกรรม หรือการร่วมกิจกรรมใดๆ ไม่ว่าจะเป็นการดำเนินการโดยบริษัท หรือบริษัทพันธมิตร
(4) เพื่อติดต่อผู้ใช้งานสำหรับการให้บริการ และดูแลผู้ใช้งาน หรือสำหรับการสื่อสารที่ได้รับอนุญาตตามช่องทางการสื่อสารที่ท่านยินยอมให้ทางบริษัทจัดเก็บ ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
(5) เพื่อดำเนินการตามวัตถุประสงค์ตามกฎหมาย
(6) เพื่อคุ้มครองสิทธิในทรัพย์สิน หรือความปลอดภัยของบริษัท หรือของผู้ใช้บริการของบริษัท
ทั้งนี้ การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้กับบุคคลอื่น จะดำเนินการภายใต้วัตถุประสงค์ที่กำหนดข้างต้นหรือวัตถุประสงค์อื่นที่กฎหมายกำหนดให้กระทำได้เท่านั้น
ในกรณีที่กฎหมายกำหนดว่าต้องได้รับความยินยอมจากท่าน บริษัทจะดำเนินการขอความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่านก่อน โดยบริษัทจะจัดให้มีมาตรการที่เหมาะสมเพื่อคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้เปิดเผย
และเพื่อปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
นโยบายส่วนบุคคลนี้ไม่ครอบคลุมการรวบรวมและการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลภายนอก ที่กระทำโดยบุคคลภายนอก ไม่ว่าจะเป็นผู้โฆษณา ผู้ให้บริการ ผู้ขายสินค้าในเว็บไซต์อื่นๆ
ที่เชื่อมต่อ (Link) กับเว็บไซต์, แอปพลิเคชัน, โซเชียลมีเดีย (Social Media) หรือช่องทางในอนาคตของบริษัท การเชื่อมโยงระบบโซเชียลมีเดีย (Social Media)
เพื่อแชร์เนื้อหาในช่องทางของบริษัท หากการกระทำใดๆ ก็ตามที่ขัดต่อกฎหมาย และก่อให้เกิดความเสียหายแก่บริษัท ทางบริษัทจะไม่รับผิดชอบในความเสียหายใดๆ
อันเนื่องมาจากการกระทำหรือการรวบรวมข้อมูลโดยบุคคลภายนอก
ข้อ 4. ระยะเวลาการจัดเก็บ
บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามระยะเวลาที่จำเป็นเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ที่กำหนดในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลนั้นๆ และเพื่อปฏิบัติตามภาระหน้าที่ทางกฎหมายและข้อบังคับต่างๆ
โดยระยะเวลาเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลจะเปลี่ยนแปลงไปโดยขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ที่กำหนดในการเก็บรวบรวมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลนั้นๆ
ข้อ 5. ข้อจำกัดในการจัดเก็บ รวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
1. บริษัทจะจัดเก็บ รวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามความยินยอมของท่าน โดยจะต้องเป็นการใช้ตามวัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวมข้อมูลของบริษัทเท่านั้น
บริษัทจะกำกับดูแลพนักงานหรือผู้ปฏิบัติงานของบริษัทมิให้ใช้และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านนอกเหนือไปจากวัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล หรือเปิดเผยต่อบุคคลภายนอก เว้นแต่
1.1) เพื่อเป็นการปฏิบัติตามกฎหมาย เช่น พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ร.บ.ว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ประมวลกฎหมายแพ่งและอาญา
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งและวิธีพิจารณาความอาญา ฯลฯ
1.2) เพื่อประโยชน์แก่การสอบสวนของพนักงานสอบสวน หรือการพิจารณาพิพากษาคดีของศาล
1.3) เพื่อประโยชน์ของท่าน และการขอความยินยอมไม่อาจกระทำได้ในเวลานั้น
1.4) เป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท หรือของบุคคลหรือนิติบุคคลอื่น
1.5) เป็นการจำเป็นเพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล
1.6) เป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามสัญญาซึ่งเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเป็นคู่สัญญาหรือเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเข้าทำสัญญานั้น
1.7) เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวกับการจัดทำเอกสารประวัติศาสตร์หรือจดหมายเหตุ เพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือเพื่อการศึกษา วิจัย การจัดทำสถิติ ซึ่งได้จัดให้มีมาตรการป้องกันที่เหมาะสม
2. บริษัทอาจใช้บริการสารสนเทศของผู้ให้บริการซึ่งเป็นบุคคลภายนอก เพื่อให้ดำเนินการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งผู้ให้บริการนั้นจะต้องมีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัย โดยห้ามดำเนินการเก็บรวบรวม
ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลนอกเหนือจากที่บริษัทกำหนด
ข้อ 6. การโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศ
บริษัทอาจเปิดเผยหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังบุคคลภายนอกหรือเซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ในต่างประเทศซึ่งเป็นประเทศปลายทาง ที่อาจมีหรือไม่มีระดับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เท่าเทียมกัน ทั้งนี้ บริษัทจะดำเนินการตามขั้นตอนและมาตรการต่างๆ
เพื่อทำให้ท่านมั่นใจได้ว่าการโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะดำเนินการอย่างปลอดภัยและบุคคลที่รับโอนข้อมูลนั้นมีระดับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เหมาะสม และในบางกรณี บริษัทอาจขอความยินยอมจากท่านเพื่อการโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศ
หากจำเป็นต้องปฏิบัติตามที่กฎหมายกำหนด
ข้อ 7. มาตรการความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทตระหนักถึงความจำเป็นในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผย จึงกำหนดให้มีมาตราการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตามความเสี่ยงจากการประเมิน PDIA (Protection Data Impact Assessment)
เพื่อป้องกันการสูญหาย เข้าถึง ใช้ เปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยมิชอบรวมถึงการกระทำใดที่จะมีผลทำให้ข้อมูลไม่อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน
1. สร้างความตระหนักและสำนึกในความรับผิดชอบด้านความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล แก่ลูกจ้างที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคล รวมทั้งผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล โดยจัดฝึกอบรมพนักงานใหม่และทบทวนให้แก่พนักงานเป็นประจำทุกปี
2. กำหนดมาตรการเพื่อความปลอดภัยในการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล
2.1) การควบคุมการเข้าถึงอุปกรณ์ ในการใช้ จัดเก็บและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลโดยคำนึงถึงความมั่นคงปลอดภัยของอุปกรณ์และข้อมูลส่วนบุคคล ผู้ไม่มีหน้าที่รับผิดชอบจะไม่ได้รับอนุญาตใช้อุปกรณ์
2.2) กำหนดสิทธิ์ในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ปฏิบัติงานระดับต่างๆ
2.3) การบริหารจัดการการเข้าถึงของผู้ใช้งาน เพื่อควบคุมการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล
2.4) กำหนดหน้าที่ความรับผิดชอบของผู้ใช้งาน เพื่อป้องกันการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาต การเปิดเผย การล่วงรู้ หรือการลักลอบทำสำเนาข้อมูลส่วนบุคคล การลักขโมยอุปกรณ์
ผู้รับผิดชอบตรวจสอบบำรุงรักษาให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์ทั้งฮาร์ดแวร์ ซอฟท์แวร์ และไฟล์ข้อมูลต่างๆ
2.5) กำหนดให้มีการตรวจสอบย้อนหลังเกี่ยวกับการใช้ข้อมูล เข้าถึง เปลี่ยนแปลง ลบ หรือถ่ายโอนข้อมูลส่วนบุคคล โดยกำหนดอายุการจัดเก็บและลบข้อมูล
3. กำหนดให้มีการตรวจสอบและประเมินความเสี่ยงด้านความมั่นคงปลอดภัย และผลกระทบของการป้องกันข้อมูลส่วนบุคคลด้วยกระบวนการของ PDIA รวมทั้งการปฏิบัติตามกระบวนการ ขั้นตอน
ในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล หรือ ของระบบสารสนเทศ ทั้งหมดอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง
4. กำหนดให้มีการใช้มาตราเพื่อการควบคุมพิเศษและเป็นการเฉพาะสำหรับการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวหรือเป็นข้อมูลที่อาจกระทบต่อความรู้สึก
5. กำหนดการทบทวนและตรวจสอบมาตราการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลที่เก็บรักษาไว้ในทุกๆ 1 ปีหรือ เมื่อมีการร้องขอ หรือเมื่อสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป และ หรือเป็นหน้าที่ที่ DPO จะต้องดำเนินการให้เป็นไปตามข้อกำหนด
ข้อ 8. สิทธิตามกฎหมายของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
ภายใต้ขอบเขตการบังคับใช้ตามนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ หากท่านมีข้อขัดข้องเกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ท่านมีสิทธิตามกฎหมายที่จะดำเนินการดังต่อไปนี้
(1) สิทธิในการถอนความยินยอม (Right to withdraw consent): ท่านมีสิทธิที่จะถอนความยินยอมที่ท่านให้ไว้กับเรา โดยการถอนความยินยอมนี้ อาจส่งผลต่อการดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใดที่ท่านได้ทำไว้กับเรา
และท่านอาจไม่ได้รับการตอบรับซึ่งสิทธิหรือบริการที่เป็นประโยชน์จากเรา ทั้งนี้ การถอนความยินยอมของท่านไม่ส่งผลกระทบต่อการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่เราได้ดำเนินการตามที่ได้รับความยินยอมจากท่านก่อนแล้ว
(2) สิทธิในการเข้าถึงข้อมูล (Right to access): ท่านมีสิทธิขอเข้าถึง ขอรับสำเนา หรือขอให้เราเปิดเผยการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่อยู่ในความรับผิดชอบของเรา
(3) สิทธิในการระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล (Right to restriction): ท่านสามารถร้องขอให้เราทำการระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลได้
(4) สิทธิขอให้โอนข้อมูลส่วนบุคคล (Right to data portability): ท่านมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากเราได้ ซึ่งข้อมูลที่ท่านร้องขอจะต้องเป็นข้อมูลที่อยู่ในรูปแบบที่สามารถอ่าน หรือ
ใช้งานโดยทั่วไปได้ด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติ และสามารถใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ นอกจากนี้
ท่านยังสามารถร้องขอให้เราโอนหรือส่งข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวของท่านไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นในรูปแบบอัตโนมัติ หรือ ท่านอาจร้องขอให้เราโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังผู้ควบคุมส่วนบุคคลอื่นโดยตรง ทั้งนี้
เฉพาะกรณีที่ทางการค้าและทางเทคนิคสามารถกระทำได้เท่านั้น
(5) สิทธิคัดค้านข้อมูลส่วนบุคคล (Right to object): ท่านมีสิทธิคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่อยู่ในความควบคุมของเรา โดยการตอบรับการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลนี้
อาจส่งผลให้ท่านอาจไม่ได้รับการตอบรับซึ่งสิทธิหรือบริการที่เป็นประโยชน์จากเรา ทั้งนี้ การตอบรับคัดค้านของท่านไม่ส่งผลกระทบต่อการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่เราได้ดำเนินการตามที่ได้รับความยินยอมจากท่านก่อนแล้ว
(6) สิทธิในการลบข้อมูลส่วนบุคคล (Right to be forgotten): ท่านมีสิทธิขอให้เราทำการลบ หรือทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้ โดยการลบข้อมูลส่วนบุคคลนี้
อาจส่งผลต่อการดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใดที่ท่านได้ทำไว้กับเรา และท่านอาจไม่ได้รับการตอบรับซึ่งสิทธิหรือบริการที่เป็นประโยชน์จากเรา ทั้งนี้
การถอนความยินยอมของท่านไม่ส่งผลกระทบต่อการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่เราได้ดำเนินการตามที่ได้รับความยินยอมจากท่านก่อนแล้ว
(7) สิทธิขอให้แก้ไขข้อมูลส่วนบุคคล (Right to rectification): ท่านสามารถร้องขอให้เราดำเนินการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ให้ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิดได้
(8) สิทธิร้องเรียน (Right to lodge a complaint): ในกรณีที่ท่านเห็นว่ามีการฝ่าฝืนไม่ดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิร้องเรียนไปยังผู้มีอำนาจตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องได้
ทั้งนี้ เราขอสงวนสิทธิในการปฏิเสธคำร้องขอของท่าน เพื่อรักษาสิทธิประโยชน์ของท่าน หรือโดยสิทธิที่มีอยู่ตามที่กฎหมายกำหนดไว้ รวมถึงในกรณีที่ปรากฎข้อเท็จจริงว่า
ท่านไม่สามารถแสดงตนหรือยืนยันตัวตนได้ว่าเป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลที่แท้จริง
ข้อ 9. การเปลี่ยนแปลงนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
เมื่อท่านใช้บริการ ทำธุรกรรม หรือร่วมกิจกรรมใดๆ กับบริษัทและเครือบริษัท ฮอนด้า โลจิสติกส์ เอเซีย จำกัด ถือว่าท่านได้รับทราบและยินยอมปฏิบัติตามนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ และฉบับแก้ไขเพิ่มเติมในอนาคต
บริษัทอาจจะแก้ไขเพิ่มเติมนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้เป็นครั้งคราว เพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลหรือกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง
โดยบริษัทจะเผยแพร่ประกาศการแก้ไขเพิ่มเติมบนเว็บไซต์และช่องทางอื่นของบริษัท และถือเป็นการยอมรับข้อกำหนดของนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้
ข้อ 10. ช่องทางการติดต่อบริษัท
หากท่านต้องการสอบถามเพิ่มเติมหรือต้องการใช้สิทธิของท่านตามนโยบายฯ นี้ ท่านสามารถติดต่อเราได้ทาง อีเมล์: proposal-hlas@hlas.co.th หมายเลขโทรศัพท์ :02-235-6200
นโยบายคุกกี้ (Cookie) พิกเซล (Pixel) และ ไอพีแอดเดรส (IP Address)
นอกจากข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทอาจเก็บรวบรวมข้อมูลบางอย่างผ่านเทคโนโลยี เช่น คุกกี้ (Cookie) พิกเซล (Pixel) ไอพี แอดเดรส (IP Address) และแหล่งเก็บข้อมูลบนเบราว์เซอร์และอุปกรณ์ของผู้ใช้
รวมถึงเครื่องมือเก็บข้อมูลของบุคคลภายนอก เช่น ผู้ให้บริการด้านการตลาดหรือวิเคราะห์ ในการเก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้เทคโนโลยีประเภทนี้ โดยตรงบนเว็บไซต์
ทั้งนี้ คุกกี้ (Cookie) คือ ไฟล์ข้อมูลตัวอักษรขนาดเล็กที่รวบรวมข้อมูลในคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์เคลื่อนที่ หรือ อุปกรณ์อื่นของผู้ใช้งาน คุกกี้ทำให้บริษัททราบถึงบริการหรือสินค้าที่ท่านชื่นชอบ
รวมถึงบริการที่ไม่อยู่ในความสนใจของท่าน ส่วนพิกเซล (Pixel) เป็นภาพขนาดเล็ก เป็นส่วนหนึ่งของรหัสบนเว็บเพจ ซึ่งทำหน้าที่ต่างๆ เช่น ทำให้เซิร์ฟเวอร์อื่นสามารถวัดยอดการเข้าชมเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน
และมักใช้เชื่อมโยงกับคุกกี้ โดยรหัสดังกล่าวจะทำการติดตามเมื่อมีการดาวน์โหลดพิกเซลเพื่อบ่งชี้ว่าผู้ใช้งานได้เข้าเชื่อมต่อกับจอภาพใด หรือบางส่วนของจอภาพใด
ด้วยการทำงานของคุกกี้และพิกเซล จะทำให้บริษัทสามารถจดจำผู้ใช้บริการที่เคยเข้าชมเว็บไซต์ และ แอปพลิเคชันของบริษัท ทราบถึงจำนวนและวัตถุประสงค์ของผู้ที่ใช้บริการเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน
และช่วยให้บริษัทจัดบริการข้อมูล พัฒนาประสบการณ์การเข้าชมเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน ปรับปรุงคุณภาพการให้บริการ นําเสนอบริการ สิทธิพิเศษ ผลิตภัณฑ์ กิจกรรม หรือโฆษณาที่ตรงกับพฤติกรรม
และความสนใจสำหรับท่านด้วย ซึ่งระบบอาจมีการแจ้งเตือน โดยสามารถเลือกอนุญาตหรือปิดการแจ้งเตือนได้ผ่านหน้าเว็บไซต์